ขายตรงสายพันธุ์ไทยชู'ทีวีดาวเทียม'รุก AEC
ล่าสุด ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้เทกโอเวอร์ นสพ.สยามธุรกิจ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อช่องทีวีดาวเทียม “นีโอทีวี” เป็น “นีโอทีวี สยามธุรกิจ”
ช่องนีโอทีวี ถือว่ามีความโดดเด่นที่สุดในกลุ่มทีวีเครือข่ายตรง โดยมี ดร.นพรุจ เวชกุล กับ ดร.รัชนี มหานิยม ประธานฝ่ายสมาชิกของบริษัทนีโอไลฟ์ เป็นตัวชูโรงในช่องนี้
ขณะนี้ บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ขยายการทำธุรกิจสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558
ที่ผ่านมา บริษัทนีโอไลฟ์ฯ ได้ทำการขยายศูนย์สู่ประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ ส.ป.ป.ลาว มี 4 สาขา (เวียงจันทน์, สะหวันเขต, จำปาสัก และอุดมไซ) สิงคโปร์ และเวียดนาม
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้ทำการขยายศูนย์สาขาเข้าไปที่ประเทศกัมพูชา โดยวางจุดตั้งสาขาที่เมืองหลวงกรุงพนมเปญ
เครื่องมือในการรุกไปในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่ทรงพลังคือ "ทีวีดาวเทียม" ที่ออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคม ระบบซีแบนด์
วันนี้ ช่องนีโอทีวี เปลี่ยนเป็น "นีโอ สยามธุรกิจ" เพราะการผันเปลี่ยนของการรับข่าวสารในปัจจุบันของประชาชน ซึ่งนิยมรับข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ และสื่อรูปแบบใหม่ต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นสื่อเก่าทำงานได้อย่างยากลำบาก และเป็นเรื่องยากที่จะดึงคนเข้ามารับข่าวสารในช่องทางนี้
ทำให้ นสพ.สยามธุรกิจราย 3 วัน ต้องคิดและวางแผนในการทำงาน ใหม่ เพื่อให้สื่อสิ่งพิมพ์ยืนอยู่ในลู่การแข่งขันต่อไป
มิเพียงแบรนด์น้องใหม่ขายตรงที่ปรับตัว แบรนด์ดังอย่าง "กิฟฟารีน” ก็ทุ่ม 50 ล้านบาท เปิดตัวทีวีดาวเทียม “กิฟฟารีน แชนแนล” ยิงสัญญาณไปทั่วอาเซียน รับมือกับการเปิดตลาด AEC เช่นกัน
พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม “กิฟฟารีน แชนแนล” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สนับสนุนแผนการทำตลาดของกิฟฟารีน
โดยมีด้วยกัน 9 รายการ แบ่งเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของบริษัท 30-40% และอีก 60-70% เป็นการสื่อสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักธุรกิจ และสาระความบันเทิงเพื่อ เจาะกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจกิฟฟารีน 70% และที่เหลืออีก 30% สำหรับบุคคลทั่วไป โดยเริ่มทดลองแพร่ภาพออกอากาศทั่วประเทศเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
เดิมทีบริษัทมีช่องทางการสื่อสารหลักคือ การจัดอบรมสัมมนา การติดต่อ สื่อสารผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งบางครั้ง อาจทำให้การกระจายข้อมูลข่าวสารเป็นไป อย่างไม่ทั่วถึง เพราะกิฟฟารีนมีสมาชิกกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
เมื่อมีการจัดอบรมสัมมนาขึ้นในพื้นที่ส่วนกลาง ก็มีสมาชิกหลายๆ คนพลาดโอกาสเข้าร่วม หรือช่องทางสื่อสารทางเว็บไซต์ของบริษัท ก็ไม่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของนักธุรกิจบางคนที่อาจไม่ถนัดในด้านไอทีนัก
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้นักธุรกิจจำนวนมากเกิดความรู้สึกห่างเหินกับทีมงานและองค์กร จนทำให้บางคนเลิกทำธุรกิจกับบริษัทไปโดยปริยาย
จากการสำรวจของบริษัทพบว่าสมาชิกนักธุรกิจในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะมีการติดจานดาวเทียมถึงร้อยละ 70 ขณะที่สมาชิกในกรุงเทพฯ มีจานดาวเทียมร้อยละ 30-40
ฉะนั้น พญ.นลินี จึงคิดว่าการที่บริษัทเปิดช่องทีวีดาวเทียมขึ้น จะทำให้ดึงนักธุรกิจเก่ากลับมา และเหนืออื่นใดสามารถสร้างนักธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นได้อีกมาก
ทั้งนี้ “กิฟฟารีน แชนแนล” จะมีการแพร่ภาพ ส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ทั้งในทวีปเอเชีย, ยุโรป และออสเตรเลีย โดยใช้ระบบสัญญาณดาวเทียมซีแบนด์
สิ่งที่บริษัทจะได้รับอีกอย่างหนึ่งคือ ช่องทางดังกล่าวสามารถรองรับการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้เป็นอย่างดี เพราะขณะนี้กิฟฟารีนได้รุกขยายเครือข่าย ธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย, กัมพูชา, ลาว และปีหน้ากำลังจะรุกเข้าสู่ประเทศอินโดนีเซีย
การมีช่องทีวีดาวเทียมจึงสามารถเชื่อมโยงนักธุรกิจ ในกลุ่มประเทศอาเซียนให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับกิฟฟารีนเมืองไทยได้
เมื่อการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียนมาถึงในอีก 3 ปีข้างหน้า "ขายตรงสายพันธุ์ไทย" ก็รุกเข้าไปประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยกลยุทธ์ดาวเทียมนำการตลาด!
ช่องนีโอทีวี ถือว่ามีความโดดเด่นที่สุดในกลุ่มทีวีเครือข่ายตรง โดยมี ดร.นพรุจ เวชกุล กับ ดร.รัชนี มหานิยม ประธานฝ่ายสมาชิกของบริษัทนีโอไลฟ์ เป็นตัวชูโรงในช่องนี้
ขณะนี้ บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ขยายการทำธุรกิจสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558
ที่ผ่านมา บริษัทนีโอไลฟ์ฯ ได้ทำการขยายศูนย์สู่ประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ ส.ป.ป.ลาว มี 4 สาขา (เวียงจันทน์, สะหวันเขต, จำปาสัก และอุดมไซ) สิงคโปร์ และเวียดนาม
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้ทำการขยายศูนย์สาขาเข้าไปที่ประเทศกัมพูชา โดยวางจุดตั้งสาขาที่เมืองหลวงกรุงพนมเปญ
เครื่องมือในการรุกไปในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่ทรงพลังคือ "ทีวีดาวเทียม" ที่ออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคม ระบบซีแบนด์
วันนี้ ช่องนีโอทีวี เปลี่ยนเป็น "นีโอ สยามธุรกิจ" เพราะการผันเปลี่ยนของการรับข่าวสารในปัจจุบันของประชาชน ซึ่งนิยมรับข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ และสื่อรูปแบบใหม่ต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นสื่อเก่าทำงานได้อย่างยากลำบาก และเป็นเรื่องยากที่จะดึงคนเข้ามารับข่าวสารในช่องทางนี้
ทำให้ นสพ.สยามธุรกิจราย 3 วัน ต้องคิดและวางแผนในการทำงาน ใหม่ เพื่อให้สื่อสิ่งพิมพ์ยืนอยู่ในลู่การแข่งขันต่อไป
มิเพียงแบรนด์น้องใหม่ขายตรงที่ปรับตัว แบรนด์ดังอย่าง "กิฟฟารีน” ก็ทุ่ม 50 ล้านบาท เปิดตัวทีวีดาวเทียม “กิฟฟารีน แชนแนล” ยิงสัญญาณไปทั่วอาเซียน รับมือกับการเปิดตลาด AEC เช่นกัน
พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม “กิฟฟารีน แชนแนล” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สนับสนุนแผนการทำตลาดของกิฟฟารีน
โดยมีด้วยกัน 9 รายการ แบ่งเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของบริษัท 30-40% และอีก 60-70% เป็นการสื่อสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักธุรกิจ และสาระความบันเทิงเพื่อ เจาะกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจกิฟฟารีน 70% และที่เหลืออีก 30% สำหรับบุคคลทั่วไป โดยเริ่มทดลองแพร่ภาพออกอากาศทั่วประเทศเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
เดิมทีบริษัทมีช่องทางการสื่อสารหลักคือ การจัดอบรมสัมมนา การติดต่อ สื่อสารผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งบางครั้ง อาจทำให้การกระจายข้อมูลข่าวสารเป็นไป อย่างไม่ทั่วถึง เพราะกิฟฟารีนมีสมาชิกกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
เมื่อมีการจัดอบรมสัมมนาขึ้นในพื้นที่ส่วนกลาง ก็มีสมาชิกหลายๆ คนพลาดโอกาสเข้าร่วม หรือช่องทางสื่อสารทางเว็บไซต์ของบริษัท ก็ไม่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของนักธุรกิจบางคนที่อาจไม่ถนัดในด้านไอทีนัก
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้นักธุรกิจจำนวนมากเกิดความรู้สึกห่างเหินกับทีมงานและองค์กร จนทำให้บางคนเลิกทำธุรกิจกับบริษัทไปโดยปริยาย
จากการสำรวจของบริษัทพบว่าสมาชิกนักธุรกิจในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะมีการติดจานดาวเทียมถึงร้อยละ 70 ขณะที่สมาชิกในกรุงเทพฯ มีจานดาวเทียมร้อยละ 30-40
ฉะนั้น พญ.นลินี จึงคิดว่าการที่บริษัทเปิดช่องทีวีดาวเทียมขึ้น จะทำให้ดึงนักธุรกิจเก่ากลับมา และเหนืออื่นใดสามารถสร้างนักธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นได้อีกมาก
ทั้งนี้ “กิฟฟารีน แชนแนล” จะมีการแพร่ภาพ ส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ทั้งในทวีปเอเชีย, ยุโรป และออสเตรเลีย โดยใช้ระบบสัญญาณดาวเทียมซีแบนด์
สิ่งที่บริษัทจะได้รับอีกอย่างหนึ่งคือ ช่องทางดังกล่าวสามารถรองรับการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้เป็นอย่างดี เพราะขณะนี้กิฟฟารีนได้รุกขยายเครือข่าย ธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย, กัมพูชา, ลาว และปีหน้ากำลังจะรุกเข้าสู่ประเทศอินโดนีเซีย
การมีช่องทีวีดาวเทียมจึงสามารถเชื่อมโยงนักธุรกิจ ในกลุ่มประเทศอาเซียนให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับกิฟฟารีนเมืองไทยได้
เมื่อการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียนมาถึงในอีก 3 ปีข้างหน้า "ขายตรงสายพันธุ์ไทย" ก็รุกเข้าไปประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยกลยุทธ์ดาวเทียมนำการตลาด!